ผม ตั้งใจเลือกลานทดลองบริเวณในสวนขี้คร้านเป็นส่วนที่เคยปลูกกล้วยหอมแล้วตาย ทั้ง 100% และมีไส้เดือนในบริเวณนี้น้อยมาก เริ่มต้นจากการขุดหลุมตรงกลาง

มาดูใกล้ๆ กันตอนขุดหลุมปลูกกล้วยจะเห็นว่ามีหินปนอยู่หลายชนิดทั้งที่เป็นสีขาว สีเทา สีแดง และสีน้ำตาล




หน้า ดินมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นดินแข็งๆ และหิน ต้องใช้อีเตอร์เป็นตัวเบิกนำ และใช้ชะแลงค่อยๆ แต่งหลุมปลูก ยิ่งขุดลึกยิ่งเจอหินดูไม่ค่อยมีอนาคตเท่าไหร่




ขุดหลุมปลูกเสร็จก็ปลูกกล้วยรอบๆ เป็นวงกลมกล้วย แล้วเอาดินในหลุมใหญ่มาพูนเป็นเนินรูปวงกลม

แนว คิดของ Banana Circle เป็นผสมผสานแนวคิดของหอคอยไส้เดือน เข้ากับการทำปุ๋ยหมักแบบหลุม เข้ากับการทำร่องชะลอน้ำ (Swale) โดยเราจะต้องขุดหลุมตรงกลางให้ลึกมากพอที่น้ำซึ่งปกติไม่ค่อยจะซึมลงดินชั้น ล่าง (เนื่องจากดินชั้นดินแข็งๆ ) สามารถจะนำเอาน้ำฝนลงไปยังดินชั้นล่างได้ง่ายขึ้น น้ำเป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งในการช่วยย่อยสลายหิน การนำน้ำลงไปโดยหินได้เยอะๆ จึงจะช่วยเร่งการย่อยสลายนี้
เราเอา ใบไม้ ในกรณีนี้ผมใช้ฟาง 2 มัดใส่ในหลุมให้เต็ม เอาเศษกิ่งไม้วางทับเพื่อไม่ให้ฟางปลิว เมื่อใบไม้เหล่านี้เริ่มย่อยสลายก็จะทำตัวเหมือนกับฟองน้ำ รักษาความชื้นให้กับหลุม และเป็นอาหารของไส้เดือน ไส้เดือนเองก็จะช่วยเจาะดินให้เป็นรู ทำให้ความชื้นจากตรงกลางหลุมกระจายไปโดนหินได้มากขึ้น รากของกล้วยโดยรอบเองก็จะพยายามชอนไชมาหาน้ำในกลางหลุม ใบของกล้วยโดยรอบหลุมจะช่วยบังแดดรักษาความชื้นในหลุม ใบกล้วยโดยรอบยังทำหน้าที่เหมือนกรวยที่จะ Direct ให้น้ำฝนลงมาในกลางหลุมมากขึ้น สิ่งที่ผมคาดหวังคือ Banana Circle จะเป็นที่เลี้ยงไส้เดือนของดินบริเวณนี้ และเป็นหลุมที่ช่วยเร่งการสร้างดิน

ปล.ท่าน ไหนต้องการออกกำลังกายทดลองแบบนี้ได้เลยนะครับ ผมใช้เวลาวันหยุดตั้ง 4 วันเพิ่งปลูกกล้วยไปได้ 45 หน่อ และขุดหลุมใหญ่แบบนี้เสร็จจนถึงขั้นใส่ฟางแค่ 1 หลุม ยังเหลือต้องขุดอีกหลายหลุม การขุดหลุมบนดินแข็งๆ นั้นช่างใช้พลังกายดีแท้



ส่วนในภาพข้างล่างจะเป็นหลุมถัดไปเล็กน้อย หลุมนี้จะมีหินสีขาวอยู่ค่อนข้างมาก จะเห็นดินที่ขุดขึ้นมาเป็นสีขาวตามสีของหิน

เนื่องจากหลุมนี้ผมขุดใหญ่ขึ้น และลึกมากขึ้น จึงต้องใช้ฟางใส่ลงในหลุมมากขึ้นเป็น 4 มัด

รอดูผลงานของ Banana Circle อย่าลืมเอามมาอัปเดทด้วยนะครับ
ตอบลบ