15 ธันวาคม 2556

ระบบดักตะกอนน้ำฝน

ขออนุญาตออกนอกเรื่องนิดนึง  ท่ออันนี้ในภาพด้านล่างเป็นที่ตกตะกอนน้ำฝนที่สัญญากับคุณเพียรไว้ว่าจะถ่ายรูปมาให้ดู ระบบแบบนี้ไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด  เป็นระบบที่สมองอันน้อยนิดของผมพอจะคิดดัดแปลงได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ประกอบได้ไม่ยาก และต้นทุนไม่สูงมากนัก

ดักตะกอนน้ำฝน

หลัก การทำงานของระบบนี้ง่ายๆ คือน้ำฝนจากรางน้ำฝนจะตกลงมาในท่อแนวดิ่งก่อน  ตะกอนจะอยู่ด้านล่างของท่อเป็นส่วนใหญ่ และอาจจะมีบางส่วนที่ฟุ้งอยู่ในน้ำในท่อด้วย  เมื่อฝนตกมากพอน้ำก็จะค่อยสูงขึ้นมาจนถึงส่วนที่เป็นข้องอ 45 องศา  ด้านในของท่อส่วนที่เอียง 45 องศานี่เองผมติดมุ้งลวดอลูมิเนียมพับ 2 ชั้นไว้ 2 จุด  เพื่อเป็นตัวดักตะกอนขนาดใหญ่ที่ฟุ้งลอยขึ้นมาไม่ให้ไหลเข้าไปในโอ่ง  ส่วนตะกอนขนาดเล็กก็อาจจะผ่านไปได้บ้าง  แต่ก็มีแรงโน้มถ่วงที่จะช่วยดึงให้ตะกอนไหลลงมาตามแนวท่อ 45 องศา

ตรง ปลายท่อด้านล่างของท่อดักตะกอน  ผมเลือกขนาดท่อที่พอจะเอามือเข้าไปล้วงทำความสะอาดได้  และปิดปลายท่อด้านล่างด้วยฝาปิดเกลียวธรรมดา  และจะไม่ปิดท่อจนแน่น  จะยอมให้น้ำรั่วออกมาหน่อยๆ   เมื่อฝนหยุดตกน้ำก็จะค่อยๆ ซึมออกจนแห้งเพื่อไม่ให้ตะกอนที่ค้างอยู่ถูกหมักรวมกับน้ำจนเน่ามากเกินไป  ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ (เฉพาะในช่วงหน้าฝน) ผมก็จะไขเกลียวออกเป็นทำความสะอาดเอาตะกอนที่ค้างอยู่ในท่อออกมา


ในหนังสือ ของปู่บิล  ยังนำเสนอวิธีการทำระบบที่จะเก็บน้ำฝนหลังจากที่ฝนตกไปแล้วสักพักโดย อัตโนมัติ และไม่ต้องใช้พลังงานอะไรมาก 2 ตัวอย่าง  ระบบแบบนี้ซับซ้อนกว่า และน่าจะทำงานได้ดีกว่าระบบที่ผมทำ

ถังเก็บน้ำฝน ถังเก็บน้ำฝน

แบบแรกใช้กับถังที่มีฝาเปิดด้านบน  โดยอาศัยน้ำฝนที่ตกช่วงแรกไปในถังซึ่งต่อกับคานกระดก  เมื่อน้ำฝนเยอะพอก็จะกระดกให้น้ำฝนที่ตกช่วงหลังๆ ไหลลงไปในถังเก็บน้ำฝนแทน  แต่ถังแบบเปิดมีข้อเสียคือต้องเปิดฝาไว้ตลอดเวลาอาจจะมีฝุ่นหรือใบไม้ร่วง ไปตรงฝาที่เปิดไว้ได้  ทำให้ต้องมีตาข่ายดักไว้ด้านบน  แต่ตาข่ายดังกล่าวอาจจะไม่แข็งแรงมากพอสำหรับหนู นก หรือแมลงที่อาจจะเจาะตาข่ายเข้าไปในถังได้



แบบ ที่สองอาศัยหลักการว่าช่วงแรกๆ กระป๋องจะมาขวางน้ำสกปรกที่ตกลงมาจากรางน้ำฝน และไหลไปลงถังเก็บน้ำฝนสกปรก  เมื่อฝนตกมากขึ้น น้ำในถังจะมากขึ้นจนถังกระดกเปิดทางให้น้ำตกลงไปในกรวยน้ำฝนที่อยู่ด้านล่าง  แบบที่สองจะใช้กับถังปิด (คล้ายๆ ถังเก็บน้ำที่มีขายในปัจจุบัน) และใช้ท่อน้ำเข้าทำเป็นรูปตัวยู (U) เพื่อกันสัตว์/แมลงไม่ให้เข้าถังผ่านทางท่อขาเข้า  แต่เนื่องจากเป็นถังปิดทำให้น้ำฝนที่มากเกินไปไม่สามารถล้นผ่านฝาด้านด้าน บนได้  จึงอาจจะต้องมีท่อระบายน้ำล้นของถังเก็บน้ำซึ่งก็ควรที่จะมีท่อรูปตัวยู เพื่อป้องกันสัตว์/แมลงเข้าทางท่อน้ำล้น

ทั้งสองแบบจะมีการเจาะรูที่ถังน้ำเพื่อรีเซทระบบให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิมก่อนฝนตก  โดยขนาดของรูจะเป็นการปรับระยะเวลาที่ระบบจะรีเซท


อีก ระบบกรองน้ำฝนสมัยใหม่เรียกว่า Cyclone Filter ซึ่งอาจจะมีรูปร่างแตกต่างกันไปบ้างตามยี่ห้อที่เขาทำขาย  แต่หลักการทำงานคล้ายๆ กัน




ระบบ กรองจะถูกออกแบบมาพิเศษให้น้ำฝนไหลเข้ามาด้านข้าง เพื่อให้น้ำเกิดแรงเหวี่ยงคล้ายๆ พายุหมุน (Cyclone) ทำให้น้ำส่วนใหญ่ถูกเหวี่ยงไปอยู่ด้านขอบของที่กรอง ส่วนเศษขยะ และตะกอนจะถูกแยกด้วยแผ่นกรองรูปทรงกระบอกไม่ให้ถูกเหวี่ยงไปรวมกับน้ำที่ ด้านข้างของท่อกรองได้  และจะตกลงมาในช่องตรงกลางของท่อกรอง   ที่ส่วนล่างของท่อกรองจะมีที่รับน้ำที่ถูกเหวี่ยงออกไปด้านข้าง และส่งน้ำต่อไปยังที่เก็บน้ำฝนที่ติดตั้งอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 


อ้อ...เกือบลืมว่าอีกวิธีของการแยกน้ำฝนช่วงต้น (First Flush) โดยใช้ลูกบอล  หลักการทำงานคือน้ำช่วงแรกจะถูกเก็บเข้าไปในท่อก่อน  จะทำให้ลูกบอลลอยขึ้นมาปิดทางเข้าของน้ำฝน  ทำให้น้ำส่วนที่เหลือจะไหลไปอีกทางแทน  ส่วนในท่อพักน้ำก็จะมีทางให้น้ำไหลเล็กๆ เพื่อให้น้ำไหลออกไปให้หมดท่อเตรียมไว้สำหรับฝนตกครั้งต่อไป

 

ส่วนการให้น้ำล้นไปยังโอ่งถัดไป  ผมใช้วิธีแบบรูปข้างล่างครับ  ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน  มีช่องน้ำเข้าจาก 2 ด้านของหลังคา ส่วนโอ่งที่เหลือเชื่อมกันหมด  มีตัวดักตะกอนทั้งสองด้านตามรูปที่ถ่ายให้คุณเพียรดูด้านบน  ถ้าตะกอนยังหลุดมาอีกก็จะอยู่ในโอ่ง 2 ใบหัวท้ายเป็นส่วนใหญ่  เวลาทำความสะอาดก็จะเน้นเฉพาะ 2 ใบนี้

โอ่งซีเมนต์เก็บน้ำฝน
 



ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=79810.0 
 

1 ความคิดเห็น: